จงเสนอแนะวิธีการทำการตลาดระหว่างประเทศให้ทั้ง 2 ธุรกิจ

ตอบคำถาม

จงเสนอแนะวิธีการทำการตลาดระหว่างประเทศให้ทั้ง 2 ธุรกิจ

 

ฟูจิ                               

1. การลงทุนในการสร้างโรงแรมเพราะเห็นว่าธุรกิจด้านอาหารกับธุรกิจบริการนั้นสามารถไปด้วยกันได้เพื่อหวังผลของกลุ่มลูกค้าB+นั้นเป็นการสร้างโอกาสในการทำกำไรได้เป็นอย่างดีเพราะการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นกำลังเจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างมาก

 

2. การเพิ่มมูลค่าให้กับบัตรและสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับสมาชิกนั้น โดยการร่วมมือกับพันธมิตรกว่า30รายนั้น มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเพราะจะทำลูกค้ากลับมาใช้บริการของเราอีกและอาจบอกต่อ และควรมีโปรโมชั่นใหม่ๆให้แก่ลูกค้าที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ

 

3. การขยายสาขาไปยังต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะต้องมองถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ค่อนข้างมีฐานะและประเทศนั้นมีการท่องเที่ยวค่อนข้างดีเพื่อจะได้กลุ่มลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำจากประโยชน์ในการท่องเที่ยวจากประเทศนั้นๆ ดังนั้นจะต้องเลือกทำเลให้เหมาะสมและรัดกุมมากๆ

 

MK        

1. การเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ที่เน้นคำว่า เอ็มเค อยากให้คำไทยมีสุขภาพดี  ผมว่าเป็นเรื่องที่ทำถูกต้องเพราะเป็นการจับกลุ่มลูกค้าสมัยใหม่ที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะในปัจจุบันประชาชนได้หันมาดูแลสุขภาพกันอย่างมากขึ้นโดยตระหนักถึง คุณค่าและความสะอาดของอาหารที่บริโภคเป็นสำคัญ 

 

2. การสร้างแบรนด์เพื่อย้ำภาพลักษณ์ของอาหารครอบครัวและกลุ่มเพื่อนๆนั้น  อาจจะทำให้เสียโอกาศสำหรับลูกค้าที่รักสันโดด ชอบอยู่ลำพัง หรือกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบเข้าสังคมและไม่ได้อยู่กับครอบครัวได้

 

3. การใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการเปิดสาขาในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ดีเพราะเอ็มเคมีความมั่นคงในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เอ็มเคจะตีตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายๆ  เพราะจะต้องเจอกับคู่แข็งที่ค่อนข้างแข็งอย่างโออิชิ เป็นต้น

ขนมอินเดีย

ความรู้สึกที่มีต่อขนมอินเดีย

               สุดยอดมากครับเกิดมาพึ่งเคยกินครั้งแรก ดูจากสีสันของขนมแล้วหน้ารับประทานทุกอันเลยครับไม่เชื่อลองดูจากในรูปที่ผมถ่ายเอานะครับ และรสชาติของขนมอินเดียส่วนใหญ่จะออกหวานครับแต่ขอแนะนำนะครับ(ไม่ควรทานข้าวก่อนกินขนมอินเดียนะครับเพราะอาจจะอ้วกได้ 555+)ผมล้อเล่นนะครับไม่ถึงขนาดนั้น  

                    Gulabtamun  มีลักษณะทรงกลมสีขาวมีความแข็งเล็กน้อยและมีรสชาติหวานมากครับหน้าจะมีส่วนผสมของน้ำตาลและมะพร้าวครับ

              May Su มีกลิ่นคล้ายน้ำอบและมีรสชาติหวานแต่ไม่ถึงกับมาก ค่อนข้างแข็งพอสำควร

                   Rasgula  ลักษณะเหมือนขนมไข่หงส์ของไทยแต่นิ่มกว่ามาก มีรสชาติหวานมากๆเหมือนน้ำตาลและมีส่วนผสมของมะพร้าวอยู่รอบๆ



ความเสี่ยงและความน่าดึงดูดใจในประเทศอังกฤษ

 
ความน่าดึงดูดใจในประเทศอังกฤษ

ด้านเศรษฐกิจ
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและระบบเศรษฐกิจค่อนข้างดีมีอัตราเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และอัตราการว่างงานอยู่ในระดับที่ต่ำ เหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง


ด้านเทคโนโลยี
ประเทศอังกฤษมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและไฮเทคเป็นอย่างมากจึงสามารถดึงดูดเงินตราได้อย่างมากมายจึงเป็นเรื่องที่น่าดึงดูดใจนักลงทุนเป็นอย่างมาก


ด้านการเมือง
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมญเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อังกฤษได้สร้างกฎเกณฑ์การปกครองคือระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยเชื่อมโยงกันและกันของ3สถาบันหลักและอังกฤษเป็นเมืองผู้ดีที่รักสงบจึงไม่ค่อยประสบปัญหาทางการเมืองการปกครองจะยึดหลักขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม


ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีความเจริญ ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ศิลปะ อุตสาหกรรม และการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ จัดได้ว่าเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา ซึ่งมีห้องสมุด และแหล่งค้นคว้าทางวิชาการมากมาย จึงไม่น่าแปลกเลยที่จะมีผู้ให้ความสนใจมาศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

ความเสี่ยงในประเทศอังกฤษ

ด้านเศรษฐกิจ
ความเสียงในด้านเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษจัดว่ามีน้อยเพราะประเทศอังกฤษมีระบบเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับค่อนข้างดีและส่วนใหญ่เป็นระบบเศรษฐกิจที่จัดเป็นอุตสาหกรรมบริการ


ด้านเทคโนโลยี
ในประเทศอังกฤษมีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากแต่เทคโนโลยีบางอย่างก็ให้ผลเสียถ้าเราไม่ศึกษา
ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ก็อาจจะเป็นภัยพิบัติต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก


ด้านการเมือง
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศแม่แบบในเรื่องการปกครองจึงทำให้มีกฏหมายที่เคร่งครัดเป็นอย่างมากดังนั้นถ้าเราไม่ศึกษาให้รอบครอบอาจจะเป็นการเสี่ยงในการลงทุนทำธุรกิจเป็นอย่างมาก


ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ประเทศอังกฤษจัดได้ว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีประวิติความเป็นมาที่ยาวนานเป็นอย่างมากและสังคมอังกฤษส่วนใหญ่จะเป็นสังคมสมัยใหม่แทบจะทั้งสิ้นและประเทศอังกฤษยังเป็นประเทศที่นำหน้าในเรื่องของแฟชั่น ซึ้งการจะลงทุนในประเทศอังกฤษนั้นจะต้องรอบรู้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรมการแต่งกาย การกิน และการใช้ชีวิต ซึ้งต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากในการลงทุน

http://e-learning.mfu.ac.th/mflu/1604101/chapter2/Lesson7.htm

http://www.higheducation.co.th/country-info/2009-09-09-10-23-53.html

สินค้าส่งออกและการวิเคราะห์ SWOT

ตลาดกล้วยไม้...การค้าในตลาดโลก

กล้วยไม้จัดเป็นสินค้าไม้ดอกไม้ประดับซึ่งเป็นที่นิยมสูงในตลาดโลกและเป็นสินค้า Product Champion ที่สำคัญของไทย ทั้งนี้ธุรกิจการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ของไทยสามารถสร้างรายได้นำเงินเข้าสู่ประเทศได้เป็นจำนวนมาก และการส่งออกกล้วยไม้ของไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง สำหรับความต้องการกล้วยไม้ตัดดอกยังคงมีมากขึ้นโดยเฉพาะการใช้สำหรับประดับอาคารสถานที่และใช้ตกแต่งอาหารในธุรกิจบริการ โรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหารต่างๆ ทั้งนี้ไทยเองมีจุดแข็งในฐานะเป็นประเทศผู้ส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกเมืองร้อนที่มีสัดส่วนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกมาโดยตลอด ขณะที่การผลิตกล้วยไม้ของไทยยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายประการจากปัญหาต้นทุนการผลิตและต้นทุนค่าขนส่งที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามภาวะราคาน้ำมันที่ทยอยปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช และความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ประเทศคู่ค้านำมาบังคับใช้ในการนำเข้าสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศของตน


 ตลาดการค้ากล้วยไม้
ไทยครองสัดส่วนส่งออกกล้วยไม้อันดับ 1 ของโลก
สำหรับมูลค่าการค้ากล้วยไม้ของโลกปี 2550 สูงกว่า 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,337 ล้านบาท) โดยไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกอันดับหนึ่งของโลกโดยเฉพาะกล้วยไม้เมืองร้อน และในปี 2550 ไทยมีสัดส่วนส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกสูงถึงร้อยละ 70 ของตลาดโลก รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เป็นต้น
http://www.positioningmag.com/prnews/prnews.aspx?id=68935



  แก้ไขแล้วครับ

วิเคราะห์ SWOT ของการส่งออกกล้วยไม้ไปยังประเทศอังกฤษ

จุดแข็ง

1.สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยเหมาะกับการเจริญเติบโตของกล้วยไม้มากว่าประเทศอังกฤษเพราะประเทศอังกฤษมีภูมิอากาศที่หนาวจึงไม่ค่อยเหมาะสมที่จะปลูกกล้วยไม้ถ้าจะผลิตกล้วยไม้ทำให้เสียทรัพยากรเยอะกว่าไทย

2.ประเทศไทยมีธุรกิจการเพราะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่สามารถผลิตต้นพันธุที่มีคุณภาพและราคาต่ำกว่าประเทศคู่แข่งรวมทั้งเกษตรกรบางส่วนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและปรับปรุงสายพันได้เอง

3.เรามีแรงงานและทรัพยากรเพียงพอในการปลูกและแตกสายพันธุ์ใหม่ๆเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมแต่อังกฤษเป็นประเทศอุตสาหกรรมเราจึงสามารถผลิตกล้วยได้ต้นทุนต่ำกว่าประเทศอังกฤษ

จุดอ่อน

1.หลายๆประเทศที่เป็นคู่แข่งในการส่งออกกล้วยไม้ได้มีการลงทุนในการวิจัยและสร้างเทคโนโลยีอย่างจริงจังในการแตกสายพันธุ์กล้วยไม้ใหม่ๆจึงทำให้มีความหลากหลายของสินค้า แต่ประเทศไทยยังตามหลังในเรื่องของเทคโนโลยีการแตกสายพันธุ์ใหม่ๆอยู่จึงอาจทำให้เสียกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการแตกต่างได้

2.การปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ให้หลากหลายในประเทศไทยยังทำกันน้อยมากถ้าเปรียบกับประเทศคู่แข่ง และเมื่อได้พันธุ์ใหม่ยังต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีถึงจะรู้ว่าพันธุ์นั้นมีอนาคตหรือเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่
3.คุณภาพไม่สม่ำเสมอและลดต่ำลงเมื่อถึงมือผู้บริโภคเนื่องจากขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพในระดับสวน/ฟาร์ม เช่น การตัดดอกในขณะที่ยังมีจำนวนดอกบานน้อย และมีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่ไม่เหมาะสม เช่น การรมสาร Methyl bromide เพื่อแก้ปัญหาเพลี้ยไฟในกล้วยไม้ส่งออก

โอกาส

1.ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ในประเทศไทยมีประมาณ 20,000 ไร่ โดยเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 1-2 ต่อปีและประเทศไทยยังมีอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นอย่างมากในการปลูกกล้วยไม้ เราจึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องของโอกาสของภูมิประเทศและภูมิอากาศ

2.รัฐบาลของประเทศไทยมีการให้การสนับสนุนในเรื่องของธุรกิจการส่งออก

3.ความต้องการดอกกล้วยไม้ในประเทศอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ถึงกับมากและประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มั่นคงและเจริญจำมีกำลังการซื้อที่ดี

อุปสรรค

  1.เนื่องจากการขนส่งกล้วยไม้นั้นจะต้องมีการรักษาอุณหภูมิจึงจำเป็นจะต้องอาศัยขนส่งทางเครื่องบินทางเดียวจึงมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดทำให้มีข้อจำกัดในการขนส่ง

2.เนื่องจากในปัจจุบันมีการแข่งขันในเรื่องของราคาที่รุนแรงจึงทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธุ์ในเรื่องของราคาตลอดเวลาดังนั้นอาจจะทำให้ไม่ได้กำไรตามที่ตั้งเป้าไว้ และบางครั้งการตั้งราคาก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย

3.สนามบินไม่มีคลังห้องเย็นที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับพักสินค้าระหว่างรอการส่งออกทำให้คุณภาพสินค้าด้อยลงเมื่อถึงปลายทาง

วัฒนธรรมในประเทศอังกฤษ หรือ Culture in the UK.

อังกฤษเป็นชาติที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประกอบไปด้วยประชากรประมาณ 60.6 ล้านคนที่ต่างเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมและภูมิหลังทางเพศ

  

ชีวิตทางวัฒนธรรม

        ทุกสิ่งในอังกฤษสมัยใหม่ นับแต่ดนตรีและแฟชั่นไปจนถึงอาหารและภาษานั้น ได้รับการก่อร่างโดยชนกลุ่มน้อยที่แตกต่างกัน กลุ่มวัฒนธรรมและสังคมต่างๆ ปฏิทินงานประจำปีในอังกฤษแน่นไปด้วยเทศกาลทางวัฒนธรรม สังคมและศาสนาซึ่งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมหลากหลายในอังกฤษ Black History Month ในเดือนตุลาคม LGBT Month ในเดือนกุมภาพันธ์ และเทศกาลรอมฎอนในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น อาหารหลากเชื้อชาติจัดเป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการอาหารอังกฤษที่มีรสชาติอาหารและเครื่องเทศหลากหลายหาได้จากร้านอาหารและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

        คนหนุ่มสาวในเมืองของอังกฤษสร้างกระแสไปทั่วโลกด้วยรูปแบบการแต่งกาย ภาษาและดนตรีของพวกเขา ส่วนใหญ่มีพื้นฐานบนการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ของรูปแบบเชื้อชาติต่างๆโทรทัศน์และวิทยุได้ให้ความสำคัญกับชนกลุ่มน้อยทั้งในรายการหลักและโปรแกรมพิเศษ สิ่งพิมพ์ของชนกลุ่มน้อยยังได้รับการตีพิมพ์ในอังกฤษนับแต่หนังสือพิมพ์รายวันไปจนถึงนิตยสารและวารสารการค้าอีกด้วย นักกีฬาชายหญิงจากชนกลุ่มน้อยต่างๆมีส่วนเพิ่มพูนความสำเร็จด้านการกีฬาของอังกฤษจากการที่หลายคนประสบความสำเร็จระดับโลกและสถานภาพในกีฬาโอลิมปิค เช่น ฟุตบอล คริคเก็ต มวยและกรีฑาต่างๆ

  
วัฒนธรรมและการสืบสานศิลปะ 

อังกฤษอุดมไปด้วยความหลากหลายทางด้านศิลปะ มีทั้งจินตกวี นักเขียนบทละคร นักดนตรี ปฏิมากร นักวาดภาพและนักสร้างภาพยนต์ผู้ได้รับความชื่นชมไปทั่วโลก
มีการสนับสนุนทางด้านทัศนศิลป์ของอังกฤษอย่างกว้างขวางและปรากฏหลักฐานทั่วประเทศ นับจากสถาปัตยกรรมที่โด่ดเด่นไปจนถึงภาพเขียน เซรามิคและปฏิมากรรมในหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์
การแสดงศิลปะยังเติบโตรุ่งเรืองอีกด้วย ดนตรี ละคร ภาพยนตร์ การเต้นรำและโอเปร่าล้วนแสดงอย่างต่อเนื่องในโรงละคร หอประชุมคอนเสิร์ตและสตูดิโอทั่วประเทศในทุกค่ำคืน
ความมั่งคั่งของวัฒนธรรมในชีวิตเราส่วนใหญ่มาจากประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของเรา นับเป็นเวลาหลายร้อยปีที่หลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมส่งอิทธิพลต่ออังกฤษและมีบทบาทในการสร้างสรรค์สังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่ในวันนี้
มีสิ่งต่างๆ มากมายให้ชื่นชมและรื่นรมย์ นับจากประวัติศาสตร์พระราชวงศ์ไปจนถึงตึกสูงเสียดฟ้าของมหานครลอนดอน จากการฉลองยามค่ำกาย ฟอล์ค ไปจนถึงกำแพงฮาเดรียนทางชายแดนตอนเหนือของอังกฤษ

ความแตกต่างของการค้าระหว่างประเทศกับการตลาดระหว่างประเทศ

การค้าระหว่างประเทศ (International trade) หมายถึง การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากแต่ละประเทศมีทรัพยากรไม่เหมือนกัน ประเทศหนึ่งผลิตสินค้าชนิดหนึ่ง แต่ผลิตอีกชนิดหนึ่งไม่ได้ จึงจำเป็นต้องนำสินค้าอีกประเทศหนึ่งที่ตนผลิตได้ไปแลกเปลี่ยนกับอีกประเทศหนึ่ง การค้าระหว่างประเทศ มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกับการค้าภายในประเทศอยู่หลายประการ เช่น ผู้ซื้อกับผู้ขายอยู่ห่างกันไกลๆ คืออยู่กันคนละประเทศ ดังนั้นการติดต่อกันจึงไม่สะดวกเหมือนกับการค้าระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในประเทศเดียวกัน หรือในเมืองเดียวกัน ภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี ปฏิบัติทางการค้าของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันอาจมีน้อย ในระยะแรกๆ นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคอื่นๆ เช่น ต้องมีการส่งสินค้าข้ามเขตแดนจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง การบรรจุสินค้า และ จัดหาพาหนะที่บรรทุกสินค้า ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการโอนเงินข้ามประเทศ (Exchange control regulations) เป็นต้น    แต่      การตลาดระหว่างประเทศ(International Marketing) เป็นกระบวนการวางแผนกระบวนการจัดแนวความคิด การตั้งราคาการจัดช่องทางการจัดจำหน่ายการส่งเสริมทางการตลาดเพื่อให้สินค้าและบริการสามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในนานาประเทศ

ดังนั้น การตลาดระหว่างประเทศ คือ การทำธุรกิจค้าขายอันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและนำเสนอคุณค่าที่อยู่ในรูปของสินค้าและบริการให้กับลูกค้าข้ามพรมแดนทางรัฐศาสตร์จากประเทศหนึ่งสู่ตลาดระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อการหาตลาดใหม่ เพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดหรือเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในตลาดระหว่างประเทศ โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือ ธุรกิจต้องการรายได้ที่เป็นเงินจากลูกค้าในตลาดระหว่างประเทศ